กิจกรรมการท่องเที่ยว

จุดที่ 1 ชมวิถีชาวบ้านโภคาภิวัฒน์ ณ หจกสุภัทรรุ่งเรืองกิจ บ้านโภคาภิวัฒน์ เป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่มีความน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของ จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นถิ่นที่มีชาวไทยพวนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมต่างๆ ของคนในหมู่บ้านได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของชาวไทยพวน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะเลือกซื้อสินค้า OTOP จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนลิ้มลองอาหารของชาวไทยพวน เป็นของฝากกลับบ้านได้อีกด้วย จุดที่ 2 สวนเมล่อน แวะชมฟาร์มเมล่อนสิงห์บุรี ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเงียบๆ ในช่วงแรกๆ จนถึงเมื่อผลเมล่อนรสชาติอร่อยได้ถูกเผยแพร่ออกไป โรงเรือนที่เห็นนั้น ใช้เทคโนโลยีของอิตาลีภายในจะเป็นระบบอีแว๊ป เป็นโรงเรือนปิดใช้หลักการเดียวกับฟาร์มหมู ซึ่งก็เลี้ยงหมูมาก่อนและตอนนี้ก็ยังเลี้ยงอยู่ คิดอยู่ว่าเมล่อนจะปลูกได้ดีหรือไม่ อร่อยหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในเรื่องของอุณหภูมิ หากเราสามารถควบคุมได้ก็จะทำให้เมล่อนอยู่สบายทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่เมล่อนนอนหลับ สามารถเติบโตได้อย่างเหมาะสมตามสายพันธุ์ การควบคุมอุณหภูมินี้ยังส่งผลถึงเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เรียกว่าสามารถป้องกันแมลงและปลอดสารเคมี 100% ใช้เมล็ดพันธุ์เมล่อนตระกูลสูงที่ชนะการประกวดเป็นแชมป์ในญี่ปุ่น ให้เนื้อสีเขียวอมเหลือง กลิ่นหอม รสชาติหวานละลายในปากต่างจากเมล่อนทั่วไปโดยกระทรวงเกษตรของเขารับรองรสชาติ การนำผึ้งชันโรงมาเป็นตัวผสมเกสร เป็นวิธีการแบบธรรมชาติ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้คนเขี่ยผสมเกสรในดอกที่ต้องการให้ออกผล แต่ที่ใช้ผึ้งก็เพราะมั่นใจว่าจะเป็นมืออาชีพมากกว่าคนทำ จุดที่ 3 ศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสวนเกษตรผสมที่ชุมชนได้ร่วมกันก่อตั้งเพื่อให้คนที่ต้องการความรู้ในการใช้ชีวิตแบบพอเพียงเข้ามาเรียนรู้ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา และไถนา ทำนา เพื่อตามรอยพระราชดำริของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 และยังมีสถานที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม หรืออากาศที่บริสุทธิ์ จุดที่ 4 วัดโภคาภิวัฒน์ แวะสักการะวัดโภคาภิวัฒน์ ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา มีพระประธานประจำอุโบสถปางมารวิชัยขนาดหนัาตักกว้าง 68 นิ้ว สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2533 พระประธานประจำศาลาการเปรียญปางมารวิชัย ขนาดหนักตักกว้าง 3 นิ้ว พระพุทธรูปหลวงพ่อหิน วัดโภคาภิวัฒน์ ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2380 เดิมชื่อว่า "วัดดอนคา" ต่อมาได้เรียกว่า "วัดโภคาภิวัฒน์" ถึง พ.ศ. 2483 จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดโภคาภิวัฒน์" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2400 จุดที่ 5 ศาลเจ้าปู่ขุนทอง แวะขอพรจากศาลเจ้าปู่ขุนทอง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังหมู่บ้านเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนหมู่บ้านและย่านใกล้เคียงมาก ว่ากันว่ามีอายุยาวนานนับร้อยปี ที่มาของเจ้าปู่ขุนทองมีคติความเชื่อเป็น 2 นัยยะด้วยกัน นัยยะที่ 1 เชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่ติดตามมาปกปักรักษาคนพวนตั้งแต่สมัยอพยพมาแต่เชียงขวาง (ประเทศลาวในปัจจุบัน) นัยยะที่ 2 ท่านเป็นทหารขุนนางในสมัยก่อนแล้วถูกฆ่าตายศพลอยน้ำมาติดอยู่แถวศาลปัจจุบัน ชาวบ้านช่วยกันนำศพมาเผาแล้วตั้งศาลให้เป็นที่อยู่ของดวงวิญญาณ หลังจากนั้นมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาก็เกิดความสำเร็จ